10 วิธีทำความสะอาดพื้นบ้านให้สะอาดเอี่ยมเหมือนใหม่

Medhini Promta Medhini Promta
Gwel-An-Treth, Sennen Cove, Cornwall, Laurence Associates Laurence Associates Modern houses
Loading admin actions …

อย่าละเลยการทำความสะอาดบ้าน! บอกเลยว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำความสะอาดพื้น เพราะมันเป็นส่วนที่เราต้องสัมผัสมากที่สุด ใช้เท้าเดินย่ำทุกวัน และถ้าไม่หมั่นปัดกวาดเช็ดดู ทั้งเศษขี้ฝุ่น ขี้โคลน ขนสัตว์ที่เราเหยียบไปเหยียบมาก็จะสะสมเป็นคราบ เอาออกยาก  แถมถ้ามีมากๆแล้วจะสกปรกจนเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคด้วย (น่ากลัวจริงๆ)

เพราะฉะนั้น สิ่งที่ต้องทำก็ไม่มีอะไรมาก ขอแค่สละเวลาว่างสักนิด วันละประมาณ 30 นาทีหลังเลิกงาน หรือในวันหยุด มาทำความสะอาดบ้านบ้าง โดยเน้นในส่วนพื้นหน่อย ถึงจะเหนื่อยหรือน่าเบื่อแต่ก็อย่าขี้เกียจ เพราะบอกเลยว่าไม่คุ้มแน่นอนที่จะเอาสุขอนามัยเข้าแลก

วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับพิเศษมาให้คุณ เป็นเคล็ดลับการทำความสะอาดพื้น 10 แบบ เพราะวัสดุที่ใช้ทำพื้นนั้นมีมากมาย และแต่ละประเภทก็มีพื้นผิวที่แตกต่างกัน วิธีการทำความสะอาดจึงต่างกัน

ลองไปดูกันเลยว่ามีอะไร และต้องทำยังไงบ้าง ดูแล้วอย่าลืมเอาไปปฏิบัติใช้ด้วย…

1.พื้นปูน

หลายๆบ้านนิยมใช้ปูนเป็นวัสดุในการปูพื้นหน้าบ้าน ตัวอย่างเช่นรูปผลงานของสถานิก Laurence Associates ซึ่งข้อดีของมันอาจจะอยู่ในแง่ความทนทาน แต่ข้อควรระวังคือการทำความสะอาด เนื่องจากปูนจะมีผิวที่ขรุขระ หยาบเหมือนกระดาษทราย มีร่องเล็กร่องน้อยเต็มไปหมด ดังนั้นเวลาทำความสะอาดจึงควรเตรียมทั้งแปรงขัดพื้น และแปรงสีฟันมาด้วย โดยวิธีคือใช้แปรงขัดพื้นขัดให้ทั่ว ส่วนแปรงสีฟันใช้ทำความสะอาดตามร่องเพื่อเอาขี้ฝุ่นขี้โคลนออก 

2. พื้นลามิเนต

อีกหนึ่งวัสดุปูพื้นยอดนิยมที่สามารถใช้แทนไม้ธรรมดาได้  เพราะมันเป็นแผ่นสังเคราะห์ ทำมาจากทั้งเรซิ่น และสารเคลือบเคมีอีกหลายชนิด ประกอบกันเป็นชั้นๆ ทำเป็นลายไม้สวยงามเหมือนของจริงมากจนแทบแยกไม่ออก และที่สำคัญคือมีความทนทานต่อการถูกกระแทกหรือขีดข่วนมากกว่าพื้นไม้ธรรมดา 

วิธีการทำความสะอาดพื้นแบบนี้ไม่มีอะไรยุ่งยากมาก แค่ใช้ผ้าหรือไม้ถูพื้นหมาดๆมาเช็ด อย่าให้น้ำเปียกโชก เพราะน้ำจะซึมลงพื้นและอาจเกิดการชำรุดได้

3. พื้นคอนกรีต

ถือว่ามีทั้งความเรียบง่าย ทนทานมาก สำหรับพื้นประเภทคอนกรีต ซึ่งก็มีคนนิยมใช้กันทั่วไป เพราะสีของมันสามารถเข้ากับการตกแต่งบ้านได้หลากหลายแบบ มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ และนอกจากนี้ยังดูแลทำความสะอาดง่ายด้วย ไม่ต้องกลัวว่าพื้นจะสึกหรือชำรุดเอาได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้เครื่องดูดฝุ่น หรือถ้าใครไม่มีจะใช้ไม้กวาดแทนก็ได้ เอามากำจัดฝุ่นและขี้ผงออกไปก่อน จากนั้นก็ผสมพงซักฟอก หรือน้ำยาถูพื้นเข้ากับน้ำกันให้เจือจาง ก่อนจะใช้ผ้าเนื้อเบาหรือไม้ถูพื้นชุบ แล้วถูให้สะอาด แต่ห้ามใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์เป็นกรดมาถูเด็ดขาด เพราะจะทำให้เนื้อคอนกรีตเสียได้

4. พื้นกระเบื้องชิ้นเล็กๆ

ตามตัวอย่างห้องน้ำในรูปนี้ จะเห็นได้ว่าตรงฝักบัวด้านในถูกปูด้วยกระเบื้องชิ้นเล็กๆหลากสี ซึ่งข้อดีของมันคืออาจจะช่วยเพิ่มลวดลายให้กับห้อง ดูมีสีสันกับลูกเล่นมากขึ้น แต่ข้อเสียคือจะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและคราบสกปรกได้ง่าย เพราะมีร่องยาปูนเยอะมาก เพราะฉะนั้น หนทางที่ดีที่สุดในการทำความสะอาดคือ ให้เอาผงซักฟอกกับผงฟูมาผสมกัน หรือจะเพิ่มน้ำส้มสายชูเข้าไปด้วยก็ได้ ผลลัพธ์ที่จะได้คือของเหลวที่มีสภาพเป็นกรดสูง ซึ่งสามารถสลายคราบสกปรกที่ติดอยู่ตามซอกกระเบื้องได้ แต่ถ้ากระเบื้องของคุณเก่ามากแล้ว คุณต้องระวังเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งที่มีสภาพเป็นกรด รวมทั้งลูกมะนาวด้วย เช่นเดียวกับอุปกรณ์ใดๆที่จะสามารถใช้ขูดร่องยาปูนได้ เพราะจะทำให้ตัววัสดุยิ่งเสื่อมสภาพเร็ว

5. พื้นกระเบื้องสีอ่อน

แน่นอนว่าจุดอ่อนของพื้นแบบนี้คือเป็นแหล่งสะสมคราบสกปรกชั้นเลิศ โดยเฉพาะตามร่องยาปูน จะเห็นได้ชัดมากเนื่องจากสีพื้นเป็นสีโทนอ่อน แนะนำให้ผสมผงซักฟอกกับน้ำอุ่นจนเจือจาง จากนั้นเทลงไปบนพื้นโดยไม่ต้องเอาน้ำราดก่อน อย่างไรก็ตาม ถ้ากระเบื้องของคุณมีลวดลายที่ละเอียดอ่อน แนะนำว่าให้ปรึกษาทางบริษัทผู้ผลิตจะดีที่สุด ว่าควรมีการดูแลรักษาอย่างไรถึงจะไม่ทำให้ตัววัสดุสึกหรอง่าย

6. พื้นกระเบื้องสีเข้ม

พื้นกระเบื้องสีเข้มจะมีข้อดีคือ เวลามีฝุ่นหรือคราบมาจับจะมองไม่ค่อยเห็น แต่นั่นก็เป็นข้อเสียไปด้วยในตัว คือในเมื่อไม่เห็น คุณก็จะไม่รู้ว่าตรงไหนสกปรกบ้าง เพราะฉะนั้น ให้เอาน้ำส้มสายชูมาผสมกับน้ำธรรมดา จากนั้นเช็ดถูกระเบื้องให้เรียบร้อย ก่อนจะตบท้ายด้วยการเอาน้ำส้มสายชูที่ผสมกับน้ำเทลงไปให้ทั่ว โดยระวังอย่าใช้น้ำมากเกินไป เพราะจะยิ่งซัดฝุ่นให้ลงไปติดตามซอกยาปูนมากขึ้น

7. พื้นปาร์เก้

เป็นอีกวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ก็ทำความสะอาดยากที่สุดเหมือนกัน เพราะถ้าไม่รู้หรือไม่ระวังแล้ว ตัวไม้จะสึก จะเป็นรอย กร่อนไปหมด สีซีดด่าง และไม่สวยเลย

เพราะฉะนั้น ทางที่ดีที่สุดคือการใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือไม้กวาดกำจัดเอาเศษผงออกไปรอบนึงก่อน จากนั้นใช้ผ้าหมาดๆเช็ดซ้ำอีกที แต่อย่าลืมระวังห้ามใช้ของที่มีฤทธิ์เป็นกรดเด็ดขาด เพราะจะกัดเนื้อไม้จนเสียได้

8. พื้นไม้เนื้อแข็ง

ดูแลรักษายากไม่เบาเหมือนกัน สำหรับบ้านที่ปูพื้นด้วยไม้เนื้อแข็ง ถ้าทำไม่เป็นแล้วรับรองว่าพื้นสึกเร็วแน่นอน แต่ก็ยังมีวิธีอยู่คือให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือไม้กวาดกำจัดฝุ่นออกไป หลังจากนั้นถ้ามีขี้ผึ้งขัดพื้นด้วยจะดีมาก เพราะจะช่วยรักษาความเงางามให้กับเนื้อไม้ และหลังจากนั้นให้ใช้ผ้าหมาดๆเช็ดตามปกติ โดยควรหลีกเลี่ยงการใช้ของที่มีสภาพเป็นกรด ถ้าไม่อยากให้ไม้ชำรุดหรือสึกกร่อน

9. พื้นกระเบื้องหิน

วิธีทำความสะอาดแบบเบสิคที่สุดคือ ให้ไปซื้อน้ำยาสำหรับทำความสะอาดพื้นผิวจำพวกหิน หินห่อน หรือหินปูนโดยเฉพาะ นำมาละลายกับน้ำให้เจือจาง จากนั้นใช้ไม้ถูพื้นมาดูตามปรกติ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมเป็นอันขาดว่าไม่ควรใช้ของเหลวจำพวกกรด เพราะจะทำลายเนื้อหิน

10. พื้นหินธรรมชาติ

ให้เลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรเฉพาะสำหรับพื้นของคุณ โดยอย่าลืมเหยาะหรือทดลองเช็ดเฉพาะส่วนดูก่อนที่จะถูทั่วทั้งบริเวณ เพื่อที่จะได้มั่นใจว่ามันไม่เป็นอันตรายต่อพื้นผิว

Need help with your home project?
Get in touch!

Highlights from our magazine